CBD มีกลไกการออกฤทธิ์ทำให้สามารถลดอาการปวด อาการอักเสบ ลดความกังวล และควบคุมอาการชักได้ โดยไม่มีความเป็นพิษต่อระบบประสาท มีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพหลายอย่าง เช่น

• ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยที่รับยาเคมีบำบัดเมื่อใช้ยามาตรฐานไม่ได้ผล
• ควบคุมอาการปวดเรื้อรัง รักษาอาการปวดจากโรคปลอกประสาทอักเสบ ลดปวดและคลื่นไส้ในผู้ป่วยระยะสุดท้าย ซึ่งข้อบ่งชี้ของทางออสเตรเลียกำหนดไว้ว่าให้ใช้เมื่อการรักษามาตรฐานยังได้ผลไม่ดีเท่านั้น
• บรรเทาอาการของโรค ALS หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
• บรรเทาอาการพาร์์กิินสััน (อาการสั่น)
• ลดปัญหาสิวและอาการผิวแห้ง
• บรรเทาอาการซึมเศร้า
• บรรเทาอาการโรคเบาหวาน
• บรรเทาอาการทางจิตเภทต่่าง ๆ

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 429 (27 ส.ค.2564) ได้กำหนดให้ผลิตภัณฑ์อาหาร จะต้องมี CBD ได้ไม่เกิน 75 มิลลิกรัม/กิโลกรัม (ppm) และ THC ไม่เกิน 0.15 มิลลิกรัม/กิโลกรัม จำนวน 4 ประเภทอาหาร คือ

• ผลิตภัณฑ์เสริม ชนิดเม็ด แคปซูล และของเหลว
• เครื่องดื่มแต่งกลิ่นรสอัดก๊าซ
• เครื่องดื่มแต่งกลิ่นรสไม่อัดก๊าซ
• เครื่องดื่มธัญชาติ (Cereal and grain beverages)

ผลิตภัณฑ์อาหารที่นำ CBD มาเป็นส่วนประกอบ เช่น เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เสริมหาอาหาร ซึ่งในต่างประเทศนำ CBD เป็นส่วนผสมในอาหารหลากหลายชนิด เช่น น้ำดื่ม เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ ขนมขบเคี้ยว

นอกจากนี้ยังมีโปรตีนใหม่ในตลาดที่ผลิตจากกัญชง คือ Hempseed cake ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมแปรรูปน้ำมันกัญชง เป็นแหล่งโปรตีนที่อุดมสมบูรณ์สำหรับเป็นส่วนประกอบของอาหารสัตว์ Hempseed cake มีคุณค่าทางโภชนาการเทียบเท่ากับเค้กเมล็ดเรพ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ได้ผลแทนกากถั่วเหลืองนำเข้า